หลักสูตรห้องเรียนภาษาญี่ปุ่นของโรงเรียนประโคนชัยพิทยาคม กำหนดให้นักเรียนแผนการเรียนภาษาญี่ปุ่น ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ต้องเรียนวิชา ญ30204 ภาษาญี่ปุ่น 4 ในภาคเรียนที่ 2 จากการจัดการการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนที่ผ่านมา ผู้สอนได้วิเคราะห์ผู้เรียนเป็นรายบุคคล จากนั้นออกแบบหน่วยการเรียนรู้แบบ Active Learning โดยเน้นพัฒนาทักษะการคิดขั้นสูงของนักเรียน แต่จากการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนที่ผ่านมา ผู้สอนพบปัญหานักเรียนยังมีนักเรียนขาดทักษะการสื่อสาร การคิด การแก้ปัญหา การทำงานกลุ่ม การใช้เทคโนลียีเพื่อค้นหาข้อมูล เพื่อช่วยให้ผู้เรีัยนมีคุณลักษณะที่ดีตามตามธรรมชาติของวิชา
วิเคราะห์หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2561) และหลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนประโคนชัยพิทยาคม ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช 2563 ในเรื่องของมาตรฐานการเรียน วิเคราะห์สภาพปัญหาของผู้เรียน วิเคราะห์การเรียนรู้ของผู้เรียนเป็นรายบุคคล
ออกแบบหน่วยการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ โดยใช้กระบวนการจัดการเรียนการสอนแบบ GAPS 5 STEPs ซึ่งเป็น 1 ในรูปแบบการสอนแบบ Active Learning
เขียนแผนการจัดการเรียนรู้ โดยใช้กระบวนการ GAPS 5 STEPs
ทดลองใช้แผนการสอน และบันทึกปัญหา และข้อค้นพบหลังสอน
นำสภาพปัญหาหรือข้อค้นพบ จากการบันทึกหลังสอนมาแลกเปลี่ยนกับครูผู้สอนภาษาญี่ปุ่น
ผู้สอนนำข้อเสนอแนะมาปรับปรุงกิจกรรมการสอน
ผู้สอนทดลองใช้แผนการสอนกับนักเรียนกลุ่มเดิม ในบทเรียนใหม่
นักเรียนประเมินตนเอง
ผู้สอนประเมินผู้เรียนตามสภาพจริง
เชิงปริมาน
นักเรียนห้องแผนการเรียนภาษาญี่ปุ่น ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/11 จำนวน 19 คน มีผลการเรียนในรายวิชา ญ30204 ภาษาญี่ปุ่น 4 อยู่ในระดับ ดี ขึ้นไป ร้อยละ 90 ซึ่งสูงกว่าค่าเป้าหมายที่สถานศึกษากำหนด
นักเรียนห้องเรียนการเรียนภาษาญี่ปุ่น ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/11 จำนวน 19 คน มีผลการเรียน 0, ร, มส. รายวิชา ญ30204 การอ่านภาษาญี่ปุ่น 2 น้อยกว่าค่าเป้าหมายที่สถานศึกษากำหนด (ร้อยละ 2)
เชิงคุณภาพ
นักเรียนห้องแผนการเรียนภาษาญี่ปุ่น ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/11 จำนวน 19 คน มีการเรียนรู้แบบนำตนเอง สามารถประเมินความรู้ของตนเองได้
นักเรียนมีการพัฒนาทักษะการทบทวน/เรียนรู้ด้วยตนเองเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ในรายวิชาภาษาญี่ปุ่น
ผลการจัดกิจกรรม
ข้อค้นพบ
1.นักเรียนได้ค้นพบคำตอบด้วยตนเอง ทำให้นักเรียนมีความรู้ ความเข้าใจที่คงทน
2.นักเรียนมีทักษะการค้นหาข้อมูล การใช้เทคโนโลยีเพื่อช่วยในการเรียนของตนเอง
3.นักเรียนเกิดทักษะการประเมินการความรู้ทั้งของตนเองและเพื่อน ๆ
4.กิจกรรมข้างตั้นช่วยให้บรรยากาศในห้องเรียนไม่น่าเบื่อ
5.การฝึกใช้เทคโนโลยีเพื่อค้นหาข้อมูล จำเป็นต้องให้นักเรียนฝึกซ้ำ ๆ เพื่อให้นักเรียนเกิดทักษะที่ชำนาญ